การบูร

  • Fast Shipping

    Receive products in amazing time
  • Easy Returns

    Return policy that lets you shop at ease
  • Always Authentic

    We only sell 100% authentic products
  • Secure Shopping

    Your data is always protected

Description

การบูร

การบูรเป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ที่มีผลึกแทรกอยู่ตามรอยแตกของเนื้อไม้และยังสามารถนำลำต้น,ราก,ใบ มากลั่นหรือสกัดจนได้ผลึกดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งแต่เดิมนั้น คำว่า “การบูร” มาจากภาษาสันสกฤตว่า “Karapur” หรือ “กรปูร” ซึ่งแปลว่า “หินปูน” เพราะโบราณเข้าใจว่าผนึกนี้เป็นพวกหินปูนที่มีกลิ่นหอม ต่อมาชื่อนี้เพี้ยนเป็น “กรบูร” และเป็น “การบูร” ในปัจจุบัน

ส่วนลักษณะของผลึกการบูรนั้น มีลักษณะเป็นผลึกหรือเกล็ดกลมๆเล็กๆ มันวาว สีขาวแห้ง มีกลิ่นหอมเย็น มักจะจับกันเป็นก้อนร่วน ๆ  แตกง่าย  หากทิ้งไว้ในอากาศ  จะระเหิดไปหมด

ซึ่งการบูรจากธรรมชาตินั้น เป็นผลึกที่แทรกอยู่ในเนื้อไม้ของต้นการบูร ที่เกิดอยู่ทั่วไปทั้งต้น มักจะอยู่ตามรอยแตกของเนื้อไม้ มีมากที่สุดในแก่นของราก รองลงมาที่แก่นของต้น ส่วนที่อยู่ใกล้โคนต้นจะมีการบูรมากกว่าส่วนที่อยู่สูงขึ้นมา ในใบและยอดอ่อนมีการบูรอยู่น้อย และจะมีน้อยกว่าใบแก่

การผลิตการบูร จะใช้วิธีการกลั่นด้วยไอน้ำ (ซึ่งอาจไม่สามารถกลั่นการบูรได้เองภายในครัวเรือน เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ที่เฉพาะ) โดยนำส่วนต่างๆ ของลำต้นและรากการบูรที่มีอายุเกิน 40 ปี มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปกลั่น เมื่อกลั่นจนได้น้ำมันหอมระเหย การบูรจะตกผลึกเป็นก้อนสีขาวๆ แยกออกมาจากน้ำมันหอมระเหย หลังจากนั้นจึงกรองแยกเอาผลึกการบูร (อาจเอามาทำให้บริสุทธิ์โดยการระเหิด) การบูรที่ได้นี้เรียกว่า refined camphor หรือ resublimed camphor แต่ในประเทศอเมริกา จะใช้ใบและยอดอ่อนของต้นที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไปแทน แม้จะให้ปริมาณการบูรน้อยกว่า แต่สามารถตัดใบและยอดอ่อนมากลั่นได้ทุกๆ สองเดือน ในปัจจุบันนี้การบูรเกือบทั้งหมดได้จากวิธีการกึ่งสังเคราะห์จากสารตั้งต้น คือ แอลฟา-ไพนีน (alpha-pinene) ที่ได้จากน้ำมันสน

ชื่อสามัญ : Camphor, Gum camphor, Formosan camphor, Laurel camphor

ชื่อตาม IUPAC : 1,7,7-trimethylbicyclo [2.2.1]heptan-2-one

ชื่ออื่น : 2-bornanone, 2-camphanone bornan-2-one, Formosa

สูตรเคมี : C10H16O

มวลโมเลกุล : 152.237 g·mol1

ความหนาแน่น : 0.992 g·cm3

จุดหลอมเหลว : 175–177 องศาเซลเซียส (347–351 องศาฟาเรนไฮต์; 448–450 เคลวิน)

จุดเดือด : 209 องศาเซลเซียส (408 องศาฟาเรนไฮต์; 482 เคลวิน)

ประโยชน์และสรรพคุณ

  • แก้ปวด แก้เคล็ดบวม ขัดยอก แพลง แก้กระตุก แก้ปวดข้อ
  • แก้ปวดเส้นประสาท
  • แก้พิษแมลงต่อย
  • รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง
  • ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ
  • แก้ไข้หวัด และขับลม
  • เป็นยากระตุ้นหัวใจ บำรุงหัวใจ
  • แก้ปวดท้อง ท้องร่วง ขับน้ำเหลือง แก้เลือดลม
  • ช่วยแก้รอยผิวหนังแตกในช่วงฤดูหนาว
  • สามารถช่วยไล่ยุงและแมลง
  • ใช้รักษาแผล สมานแผล
  • ฆ่าเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย
  • ใช้ไล่แมลง
  • ช่วยลดกลิ่นอับ
  • แก้อาการเมารถ